การเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาในแต่ละช่วงอายุ 

ตอนที่ 2 การเปลี่ยนแปลงค่าสายตาในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น-ผู้ใหญ่ตอนปลาย

เขียนโดย Foo, Say Kiang ,Faculty of Optometry & Vision Sciences SEGi University

แปลโดย ทัศนมาตร สมยศ เพ็งทวี O.D, (ดร.ลอฟท์)


 

บทนำ

จากตอนที่แล้วเราได้รู้ผลงานวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสายตาในแต่ละวัย ซึ่งในตอนที่ 1 นั้นเราพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาตั้งแต่วัยแรกเกิด ไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งได้แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสายตาที่สำคัญคือ เด็กทุกคนเกิดมาส่วนใหญ่เป็นสายตายาว (hyperopia) [จริงๆผู้แปลต้องกำกับภาษาอังกฤษสำหรับสายตายาวไว้ ก็ด้วยเหตุว่าคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่า สายตายาวคือสายตาคนแก่ ซึ่งแท้จริงแล้วมันคนละเรื่องกัน แต่คงต้องย้ำไปเรื่อยๆจนกว่า คนส่วนใหญ่จะเริ่มแยกได้-ผู้แปล] จากนั้นสายตายาวจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงขวบปีแรก จนกลายเป็นสายตาปกติในช่วงวัยเข้าโรงเรียน และในเด็กนั้นมีประบวนการที่สำคัญในการปรับสายตาตัวเองให้เป็นปกติ เรียกว่ากระบวนการ Emmetropization  ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงแรกเกิด - 3ขวบ 

 

เด็กกับผู้ใหญ่จึงมีความแตกต่างกันที่สำคัญคือ กายภาพของเด็กนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในขณะที่ผู้ใหญ่นั้นร่างกายเติบโตเต็มที่แล้ว (mature)  การจ่ายเลนส์เพื่อแก้ปัญหาสายตาหรือแก้ปัญหาการมองเห็นของเด็กจึงมีความซับซ้อนกว่าผู้ใหญ่  เนื่องจากการจ่ายเลนส์ที่ไม่เหมาะสม อาจไปยับยั้งกระบวนการพัฒนาตามธรรมชาติของเด็กได้ จึงเป็นเหตุให้มีความพยายามในการร่างกฎหมายให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบนั้น ควรได้รับการบริการจากผู้ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการตรวจสายตาเช่น pediatic ophthalmologist หรือ Optometrist  

"เด็ก...ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ตัวเล็ก..เพราะเด็กยังมีการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผู้ใหญ่ตัวเล็กนั้นทุกอย่างหยุดเจริญเติบโตแล้ว
image : Game of Throne

 

ดังนั้นวันนี้เราจะมาต่องานวิจัยนี้ต่อให้จบ ซึ่งที่ยังเหลืออยู่ 2 ช่วงอายุ คือตั้งแต่ช่วง Young adulthood (ตั้งแต่วัยรุ่นตอนปลาย ( late teen) ไปจนถึงวัยก่อนเป็นสายตาคนแก่ (pre-presbyopia))  และช่วง Late adulthood  (คือช่วงตั้งแต่ presbyopia ขึ้นไป)  เพื่อจะได้เห็นทิศทางของการเปลี่ยนแปลงทางสายตาต่อไป 

 

"Young adulthood"  
( later teens ถึง pre-presbyopia)

Young Adults หรือวัยผู้ใหญ่นั้น เป็นวัยที่มีความคงที่ของสายตามากที่สุด เมื่อเปรียบเทียกับกลุ่มวัยอื่นๆ (Goss, 1998; Grosvenor, 1991)  การเริ่มเป็นสายตาสั้นและการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้นเป็นสิ่งที่พบได้ในคนวัยนี้ แต่อัตราการเปลี่ยนแปลงสายตาของคนวัยนี้น้อยกว่าวัยเด็กมาก (Goss & West, 2002; Lin et al., 1996; Kinge & Midelfart, 1999; Jorge etal., 2007) จากการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ของ Williams และทีม ในปี 2013 พบว่า "ประชากรของคนสายตาสั้นเกือบครึ่งของคนอังกฤษนั้นเริ่มเป็นสายตาสั้นหลังจากอายุ 18 ปี"

 

การเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้นในคนวัยนี้ คาดว่ามีสาเหตุมาจาก ความโค้งของกระจกตาโค้งมากขึ้น ทำให้กำลังหักเหของกระจกตาเพ่ิมมากขึ้น (ความเป็นบวกมากขึ้น ทำให้สั้นมากขึ้นนั่นเอง -ผู้แปล) (Goss et al., 1985; Goss & Erickson, 1987;Grosvenor & Scott, 1991) แต่..เมื่อมีการศึกษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกลับพบว่า "รัศมีความโค้งของกระจกตานั้นไม่พบว่ามีความสำพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสายตา" (Fledelius, 1998) 

 

ในขณะที่สายตาสั้นนั้นมีปัจจัยมากมายที่เป็นสาเหตุให้เกิดสายตาเปลี่ยน (Hyman, 2007) ดังนั้นกระจกตาที่โค้งมากขึ้นเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้สายตาสั้นเพ่ิมมากขึ้น (Grosvenor & Scott, 1993)

 

ในประชากรที่มีลูกตาขนาดเล็ก ย่อมมีความโค้งของกระจกตาที่โค้งมากกว่า แต่กลับพบว่าคนสายตาสั้นส่วนใหญ่กลับไม่ได้เกิดขึ้นในคนที่มีดวงตาขนาดเล็ก (Grosvenor, 1991) และสิ่งที่เป็นสาเหตุให้สายตาสั้นเพ่ิมขึ้นในวัยผู้ใหญ่จริงๆน่าจะเกิดจาก ความลึกของช่องของวุ้นลูกตา (Vitreous chamber depth) และความยาวของกระบอกตา (axial lenght) (Grosvenor & Scott, 1991).

 

McBrien และ Adams (1997) พบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า "การเกิดขึ้นและการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้่นในประชากรวััยนี้นั้นเกิดจากช่องของวุ้นลูกตานั้นยาวมากขึ้น (vitreous chamber elongation)" 

 

เดิมเราเคยมีความเชื่อกันว่า ดวงตานั้นจะโตเต็มที่เมื่ออายุ 13 ถึง 15 ปี (Sorsby et al., 1992; Larsen,1971; Kent, 1963) และสายตาสั้นใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นหลังช่วงนี้ย่อมไม่ได้มีสาเหตุที่เกิดมาจากกระบอกตาที่ยาวขึ้น แต่มีหลายงานศึกษากลับพบว่า ดวงตานั้นมีการเจริญเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ (adulthood)(Grosvenor & Scott, 1991; Grosvenor & Scott, 1993; McBrien & Adams, 1997; McBrien & Millodot, 1987; Bullimore et al., 1992)  ซึ่งมีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้จากการยืดของกระบอกตาขาว (scleral stretching) ทำให้เกิดสายตาสั้นขึ้นในวัยผู้ใหญ่และเกิดการเปลี่ยนแปลงของสายตาสั้นเพ่ิมขึ้นในวัยผู้ใหญ่  (Bell, 1978)

 

มีงานวิจัยที่ทำขึ้นในอินโดนิเซีย ซึ่งได้ผลออกมาว่า ไม่มีการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นในคนกลุ่มวัยนี้ แต่กลับพบการลดลงของสายตาสั้น 0.17D ในกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 21-29 ปี และจาก 30-39 ปี (Saw et al., 2002) 

 

จากงานศึกษาของ The Handan Eye Study แบบ cross sectional  ในประเทศจีน พบว่า คนสายตาสั้นโดยเฉลี่ยนั้นกลับมามีสายตาสั้นลดลง (hyperopic shift) เมื่ออายุเพ่ิมขึ้นจาก 30 ปี - 40 ปี  (Liang et al., 2009) และก็มีรายงานจากการศึกษาแบบ longitudinal study ของ sander (1986) ก็ให้ผลออกมาพ้องกัน 

 

การเกิดขึ้นและการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้นในวัยผู้ใหญ่นั้น พบความสัมพันธ์ว่าเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเช่น การสูบบุหรี่  การใช้เวลาอ่านหนังสือต่อวันเป็นเวลานาน  คนไข้เบาหวานและคนที่มีคนในครอบครัวเป็นสายตาสั้น  (Liang et al., 2009)

 

มีงานวิจัยมาเร็วๆนี้พบว่า ผู้ที่มีอายุ 18-24 ปี ที่มีพ่อแม่เป็นสายตาสั้น และ ใช้เวลาอ่านหนังสือต่อวันเป็นเวลานาน มีการศึกษาสูง ดูใกล้มากเป็นเวลานาน และมีกิจกรรม outdoor น้อย  มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นในช่วงนี้ (Lee et al., 2013)

 

สายตาเอียงของคนกลุ่มนี้ค่อนข้างคงที่ (Liang et al., 2009; Saw et al.,2002)  มีรายงานศึกษาพบว่า พบการเปลี่ยนแปลงของสายตาเอียง 0.1D ถึง 0.3D เท่านั้นในช่วงอายุตั้งแต่ 20-40 ปี (Goss &West, 2002) และคนที่มีสายตาเอียงส่วนใหญ่ในวัยนี้นั้นเป็นแบบ With-the-rule  มากกว่า  against-the-rule (Goss & West, 2002)

 

"Late Adulthood"
ผู้สูงอายุตั้งแต่ presbyopia ขึ้นไป 

พบการเปลี่ยนแปลงของสายตาในทิศทาง Hyperopic shift (สายตายาวเพิ่มขึ้น/สายตาสั้นลดลง- ผู้เแปล) หลังจากอายุ 40 ปีขึ้นไป (Xu et al., 2005; Goss & West, 2002; Liang et al., 2009; Wu et al., 2005; Shimizu et al.,2003; Attebo et al., 1999; He et al., 2009)  และจากการศึกษาต่อเนื่องพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปในทาง Hyperopic shift ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60-64 ปี  โดยจากการศึกษาแบบ longitudinal study พบว่าจะเกิด hyperopic shift ทุกๆ 0.41D ในทุกๆ 5 ปี (Gudmundsdottir et al.,2005)

 

Bengtsson และคณะวิจัยปี 1999 พบว่า hypermetropic shift นั้นเกิดขึ้นจริงในคนที่อายุระหว่าง 55 ถึง 70 ปี พ้องกับงานวิจัยของ Attebo และทีมในปี 1999 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของค่าเฉลี่ยของสายตาบวกเพ่ิมขึ้น +1.2D ในคนอายุ 80 ขึ้นไป 

 

แนวโน้มของ hyperopic shift ทำให้ตัวเลขของประชากรที่เป็นสายตายาว (Hyperopia) เพ่ิมขึ้นสูงถึง 68.5% ในประชากรผู้สูงอายุ  (Anton et al., 2009; Wang, et al., 1994; Lam et al., 1994). 

 

อายุที่เพ่ิมขึ้นมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของประชากรสายตายาว (hyperopia) และมีความสัมพันธ์กับการลดลงของสายตาสั้น อาจเป็นไปได้ว่า กำลังของเลนส์ตา (lens power) ลดลงเมื่ออายุเพ่ิมขึ้น  (Shimizu et al., 2003; Wang et al., 1994; Garner et al., 1998). 

 

การเปลี่ยนแปลงของความลึกของช่องวุ้นในลูกตาและการเปลี่ยนแปลงความยาวของกระบอกตา อาจจะเป็นตัวแปรหลักที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงค่าสายตาของคนในวัยนี้  ส่วนตัวแปรในเรื่องความโค้งของกระจกตาเปลี่ยนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับอายุ (Gudmundsdottir et al., 2005). 

 

Grosvenor และ Skeates (1999)  ใช้การเก็บข้อมูลจากคนไข้ในคลินิกที่ได้บันทึกไว้ พบว่า  มีน้อยมากที่คนไข้สายตาสั้นจะมี hyperopic shift ในช่วง presbyopia ในทางตรงข้ามกับพบว่าคนสายตาสั้นแต่ละคนนั้นส่วนใหญ่แล้วสั้นคงที่ และบางคนมีสายตาสั้นเพ่ิมขึ้น  และเขาตั้งสมมติฐานไว้ว่า อาจมีสาเหตุเกิดจาก กระบอกตาที่ยาวขึ้น และความเป็น gradient index เลนส์ตานั้นลดลงเมื่ออายุเพ่ิมมากขึ้น 

 

ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปี จะมีความยาวของกระบอกตาสั้นกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชาย และความหนาของเลนส์แก้วตาเพิ่มขึ้นเมื่อายุเพ่ิมขึ้นของผู้หญิงจะหนากว่าของผู้ชายด้วยเช่นกัน (He et al.,2009) และนี่อาจเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของค่าสายตาที่พบในผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี (Kempen et al., 2004)

 

การเปลี่ยนแปลงของสายตาจะเริ่มกลับหรือที่เรียกว่า สายตากลับ นั้นเริ่มจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงอายุ 60 ปี  โดยการเปลี่ยนแปลงของสายตาจะเป็นไปในทางสายตาสั้นมากขึ้นอีกครั้ง (myopic shift) (Gudmundsdottir et al., 2005; Liang et al.,2009; Wu et al., 2005; He et al., 2009). 

 

การเปลี่ยนแปลงของสายตาสั้นที่เพิ่มขึ้นนี้ เกี่ยวข้องกับการเป็นต้อกระจกที่เกิดขึ้นที่ศูนย์กลาง nucleous ของเลนส์ หรือ nuclear cataract (Liang et al., 2009; Guzowski et al., 2003)

 

ความรุนแรงของเลนส์ตาขุุ่นที่บริเวณศูนย์กลางเลนส์นั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเกิดขึ้นของสายตาสั้นและไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นของสายตายาว (พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ สายตาสั้นที่เกิดขึ้นในวัยชรานั้น มีสาเหตุเกิดมาจากเลนส์แก้วตาขุ่น -ผู้แปล) (Cheng et al., 2003; Saw et al., 2008; Wong et al., 2000; Tarczy-Hornoch et al., 2006). 

 

มีงานศึกษาในญี่ปุ่นพบเช่นเดียวกันว่า มีประชากรสายตาสั้นลดลงในช่วงอายุ 70-79 ปี แต่กลับพบว่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเมื่อคนไข้อายุ 80 ปีขึ้นไปและคนที่สายตายาวหลังจากอายุ 80 ไปแล้วก็จะลดลงด้วยเช่นกัน (Sawada et al., 2008). 

 

อายุของประชากรที่เริ่มมี myopic shift นั้นเกิดขึ้นในวัยชรา (later adulthood) ซึ่งขึ้นอยู่กับการเป็นต้อกระจกชนิด nuclear cataract และมีบางงานศึกษาพบว่า myopic shift นั้นเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป (Liang et al., 2009; Saw et al., 2002; Saw et al., 2008; Wong et al., 2000 ) แต่ก็มีงานศึกษาบางงานที่ได้ผลออกมาว่า mypic shift นั้นเริ่มตั้งแต่อายุ 50 ปี (Raju et al., 2004; Bourne et al., 2004; Dandona et al., 1999). 

 

การเพิ่มขึ้นของความขุ่นของต้อกระจกที่ lens nucleous เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้นที่เกิดขึ้นในคนที่อายุ 70 ปีขึ้นไป  (Lee et al., 1999)

 

พบปัจจัยเสี่ยงที่มีความเกี่ยวข้องกับการอุบัติขึ้นของสายตาสั้นในวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปี เช่น การศึกษาสูง เบาหวาน เลนส์ตาขุ่น มีสมาชิกในบ้านเป็นสายตาสั้น (Liang et al., 2009) ในขณะที่ Gudmundsdottir etal. (2005) แสดงให้เห็นว่า ปัจจัย เช่น จำนวนปีในการศึกษา การสูบบุหรี่ ความหนาของกระจกตา ความสูง ดัชนีมวลร่างกาย ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสายตาสั้น/ ยาว อย่างมีนัยสำคัญ​ 

 

การเปลี่ยนแปลงของ crystalline lens ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสายตาเมื่ออายุมากขึ้น  Truscott และ  Zhu (2010) ให้เสนอแนะว่า  การที่เลนส์ตาสัมผัสกับความร้อนของแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้โครงสร้างโมเลกุลใหญ่ของเลนส์นั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นสายตายาวชรา และ เกิดต้อกระจกชนิด age-related nuclear cataract

 

ซึ่งถ้าเป็นสาเหตุจากความร้อนที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุให้เกิดต้อกระจกจริงๆ แสดงว่าประชากรที่มีอายุมากที่อาศัยอยู่ในแถวเส้นศูนย์สูตรน่าจะมีอัตราของการเกิด myopic shift มากกว่าประชากรในที่อื่นๆ  แต่จากการศึกษาในประเทศไนจีเรีย 1362 คน พบว่าอุณหภูมินั้นมีผลกต่อการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตาน้อยมาก (Kragha, 1985)

 

พบว่าเฉลี่ยของสายตาเอียงนั้นเพ่ิมขึ้นในผู้สูงอายุ (later adulthood) (Xu etal., 2005; Attebo et al., 1999; Anton et al., 2009; Gupta et al., 2008) ซึ่งค่าเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงคือ 0.13 D ในทิศทาง against-the-rule ในช่วงเวลา 5 ปี(Gudmundsdottir et al., 2005)

 

อัตราการเพ่ิมขึ้นของสายตาเอียงในคนสูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป นั้นมีความสัมพันธ์กับระดับของความขุ่นของเลนส์ในแต่ละอายุ (Wang et al.,1994; Wong et al., 2000; Katz et al., 1997; Dandona et al., 1999). 

 

แกนของสายตาเอียง (axis) ที่พบบ่อยสุดในวัยนี้คือ against the rule (Attebo et al., 1999) การเปลี่ยนแปลงของแกนสายตาเอียงไปในทิศทางของ against-the-rule astigmatism นั้นเริ่มตั้นตั้งแต่อายุ 40 ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของแรงตึงของเปลือกตา

 

แรงตึงของเปลือกตานั้นทำให้เกิดสายตาเอียงแบบ with-the-rule astigmatism (Goss, 1989) และเมื่อ lid tension ลดลงสวนทางกับอายุที่เพ่ิมขึ้น ทำให้  the with-the-rule astigmatism นั้นลดลง และมีการเปลี่ยนไปในทิศทางของ against-the-rule จึงมากขึ้น (Dandona et al., 1999). 

 

66.5% ของประชากรในช่วงอายุ 43 ปี นั้นมี astigmatism และเมื่ออายุมากขึ้นจะเป็นสายตาเอียงแบบ against-the-rule (Jonasson & Thordarson, 1987)

 

การอุบัติขึ้นของสายตาเอียงนั้นสูงขึ้นในกลุ่มประชากรที่มีอายุมากขึ้น (Sawada et al., 2008)

 

จากการศึกษาของ The Blue Mountains Eye Study ในประชากรสูงอายุที่มีอายุ 49 ปีขึ้นไป พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงของสายตาเอียงเพียงเล็กน้อย จากการศึกษาเป็นเวลา 5 ปี

 

แกนของสายตาเอียงยังคง คงที่ในเคสส่วนใหญ่ (64%) และมีเพียง 12% ที่เปลี่ยนไปเป็น againt-the-rule และอีก 11% เปลี่ยนไปเป็น with-the rule (Guzowski et al., 2003).

 

สรุปว่า

"การเปลี่ยนแปลงของสายตานั้นมีความสัมพันธ์กับอายุ" 

 

สายตาของคนนั้นเริ่มต้นจากการเป็นสายตายาว (hyperopia) เนื่องจากเด็กทารกนั้นมีลูกตาขนาดเล็กและกระบวนการ emmetropiazation เป็นกระบวนการปรับสมดุลตาให้เป็นสายตาปกติ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงขวบปีแรก ทำให้สายตาในช่วงปีแรกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

 

การเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น หรือ myopic shift นั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเด็กวัยเรียน โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้นคือ พันธกรรม (genetic) และปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกรับอัตราการเพ่ิมขึ้นของสายตาสั้น 

 

สายตาของคนส่วนใหญ่จะคงที่ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (young adulthood) โดยมีอัตาราการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นน้อยกว่าช่วงเด็กวัยเรียน และยังพบต่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสายตานั้นเป็นไปในทาง hyperopic shift (สั้นลดลง ,ยาวเพ่ิมขึ้น -ผู้แปล)  หลังจากอายุ 30 ปี ขึ้นไป 

 

Hyperopic shift เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย (late adult) ด้วยสาเหตุจากกำลังหักเหของเลนส์ตานั้นลดลง ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้าสายตายาวเพ่ิมขึ้น (สั้นลดลง) ในวัยนี้  

 

การเป็นต้อกระจกชนิด nuclear cataract  มีอิทธิพลทำให้สายตาเปลี่ยนในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนปลายถึงวัยชรา  โดยมีสัญญาณของอาการคือเกิด myopic shift หรือ สายตากลับในคนวัยสูงอายุ

 

ในช่วงการปรับสายตาเอียงให้เป็นสายตาปกติด้วยกระบวนการ emmetropization นั้นใช้เวลายาวนานกว่าการปรับสายตาสั้น/ยาวปกติ   และพบว่า ในช่วงเด็กเล็กนั้น จะเป็นสายตาเอียงชนิด with-the-rule astigmatism มากกว่า เนื่องจาก lid pressure ในแนว vertical  และพบว่า การเปลี่ยนแปลงของสายตาเอียงในเด็กวัยเรียนและผู้ใหญ่ตอนต้นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมา 

 

การลดลงของ lid pressure และ การเริ่มเป็นต้อกระจกชนิด neclear cataract ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสายตาเอียงเป็น against-the-rule ในประชากรสูงอายุ 

 

ทิ้งท้าย 

การรู้ข้อมูลจากข้อเท็จจริงจากงานวิจัยที่ผ่านการค้นพบและนำมาสรุปให้ได้อ่านทั้ง 2 ตอนนี้ คงทำให้เราได้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของสายตาของคนในช่วงอายุขัยหนึ่งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง  ด้วยสาเหตุต่างๆมากมายหลายๆอย่าง ซึ่งบางงานศึกษาวิจัยก็ยังคงขัดแย้งกันอยู่ แต่ก็คงทำให้เราได้เห็นทิศทางของการเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมการหรือวางแผนในการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพื่อให้การดูแลรักษาสุขภาพดวงตาและสายตานัั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งผู้แปลเห็นว่างานวิจัยนี้มีประโยชน์กับผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี   ท่านที่สนใจอ่าน paper ต้นฉบับสามารถกดเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งที่แนบมา http://onlinereview.segi.edu.my/pdf/vol8-no2-art7.pdf

ส่วนใครมาไม่ทันตอนแรกนั้น สามารถกลับไปอ่านตอนแรกได้ ซึ่งผมได้แปลไว้แล้วที่ลิ้ง http://www.loftoptometry.com/whatnew/view/129

 

ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม พบกันใหม่ในตอนหน้า 

สวัสดีครับ 

ดร.ลอฟท์​

578  Wacharapol rd ,Bangkhen ,Bkk 10220

T 0905536554

line : loftoptometry 

 

 

 

 

 



toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto