FAQ

Rodenstock

Q : ประวัติความเป็นมาของ Rodenstock

A : Rodenstock เป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ ระดับต้นๆของโลก มีสินค้าคือกรอบแว่นตาและเลนส์สายตา มีสินค้าที่เป็นกรอบแบรนด์ดังๆ ที่โรเด้นสต๊อกเป็นผู้ผลิต ออกแบบ และจัดจำหน่ายได้แก่ Rodenstcok ,PORSCHE DESIGN ,Jilsander แต่ที่โด่งดังสุดๆคงจะเป็นเรื่องเลนส์แว่นตา โดยเฉพาะเลนส์โปรเกรสซีฟที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆน้ัน โรเด้นสต๊อกถือว่าเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ที่มีเทคโนโลยีในการผลิตที่ดีที่สุดในปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์เลนส์ที่เป็นตัวสร้างชื่อและทำให้เป็นที่รู้จักคือ  Impression ILT   ซึ่งจัดว่าเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลคู่แรกของโลกเมื่อปี 2000

Q : เลนส์โรเด้นสต๊อกมีกี่ประเภท

A : เลนส์โรเด้นสต๊อกนั้น แบ่งออกเป็น 4  กลุ่มคือ 1.single vision lens หรือเลนส์ชั้นเดียว สำหรับผู้ที่อายุยังไม่ถึง 40 ปีและยังไม่มีปัญหาสายตาคนแก่. 2.progressive lens หรือ เลนส์โปรเกรสซีฟ สำหรับแก้ปัญหาสายตาคนแก่ สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40ปี 3.Computer lens หรือ เลนส์เฉพาะทาง สำหรับระยะกลางและระยะใกล้ เช่นใช้สำหรับทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือเยอะ 4.Sport and Fashion Curve เป็นกลุ่มเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบรับกับแว่นกรอบโค้งมาก ๆ และเป็นเลนส์ที่เน้นการลดการบิดเบี้ยวด้านข้าง

Q : เลนส์โปรเกสรซีฟ โรเด้นสต๊อก รุ่น Progressiv PureLife Free 2 ออกแบบอย่างไร

A : โรเด้นสต๊อกแบ่งเลนส์โปรเกรสซีฟออกเป็น 3 กลุ่ม ตามความซับซ้อนของเทคโนโลยีการออกแบบ ได้แก่ Superior ,Excelence ,Perfection ซึ่ง Porgressiv PurLife Free2 เป็นกลุ่ม Suprerior (เดิมจัดอยู่ในกลุ่ม Modern) เทคนิคการออกแบบ ส่วนใหญ่ใช้ค่ากลางในการออกแบบโครงสร้างทั้งหมดเช่น ออกแบบ inset จาก standard pd ( PD 32/32) ออกแบบโครงสร้างสำหรับกรอบแว่นตาที่มีค่า parameter FFA 5 ,CVD 13 ,PT 8 เป็นต้น ซึ่งนับว่าเป็นเลนส์ที่มีโครงสร้างที่ดี ใช้ได้ สำหรับผู้ทีมีปัญหาสายตา ไม่ซับซ้อนมากนัก

Q : ColorMatic IQ 2 คือเลนส์อะไร

A : เลนส์ออกแบบแล้วเปลี่ยนสีได้ หรือ photochromic lens นั้น Rodenstock มีเทคโนโลยีของตัวเอง ภายใต้ชื่อทางการค้า ColorMatic IQ2 ซึ่งโรเด้นสต๊อกแบ่งเทคโนโลยีเลนส์เปลี่ยนสีออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.ColorMatic IQ2เลนส์ใสเปลี่ยนสี(อยู่ในร่มใสออกแดดแล้วเปลี่ยนเป็นสีเข้ม 85%) และ เลนส์กันแดดเปลี่ยนสี(คืออยู่ในร่มยังคงมีสีประมาณ 50% ออกแดดแล้วเข้มเป็น 95%) เลนส์กลุ่มนี้มี 3 สี คือ เทา เขียว น้ำตาล 2.ColorMatic IQ Sun (ColorMatic IQ SUN Contrast/ColorMatic IQ SUN Fashion ) เป็นเลนส์กันแดดเปลี่ยนสี ซึ่งแบ่งเป็น SunContrast ที่เน้นความคมชัด ซึ่งเหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความคมชัดสูงๆ เช่นกีฬาต่างๆ ตีกอล์ฟ ขับรถ ตกปลา ยิงปืน เป็นต้น มี 3 สีให้เลือกคือ Contrast Green ,Contrast Brown ,Contrast Orange ในขณะที่ SunFashion นั้นเน้นความสบายตา ใช้เป็นกันแดดทั่วไป มี 3 สีคือ Fashion Gray ,Fashion Green ,Fashion Brwon

Lindberg

Q : การรับประกันของ LINDBEG

A : เงื่อนไขการรับประกัน การรับประกันของลินด์เบิร์กแท้จริงนั้น รับประกัน 3 ปี นับจากวันที่ผลิต และเนื่องจากลินด์เบิร์กนั้นทำเป็นตัวๆ ดังนั้นเมื่อทำเสร็จจะมีการยิ่ง serial number ซึ่ง serial no. จะระบุสเป๊คทั้งหมดของกรอบกรอบแว่น ว่าเป็นกรอบรุ่นอะไร ขนาดเท่าไหร่ สีอะไร ขายาวเท่าไหร่ ร้านไหนเป็นผู้ซื้อไป และเร่ิมผลิตเมื่อไหร่ ดังนั้นการประกันนั้น เพียงบอก serial no. ที่ปลายขาแว่น ก็จะทราบระยะเวลาประกันได้เลย และร้านค้าทุกร้านที่เป็น Authorized Dealer ของ LINDBERG ทุกที่นั้นสามารถทำหน้าที่เคลมให้ได้ ซึ่งในการเคลมนั้น จะต้องส่งกรอบแว่นกลับไปที่เดนมาร์ก ซึ่งร้านค้าอาจจะให้เจ้าของแว่นเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการส่ง และตอนนำเข้าจะมีค่าภาษีและค่านำของออกจากศุลกากร กรอบแว่นทุกตัวถ้ายังอยู่ในประกัน เจ้าของแว่นจะไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เว้นเรื่องค่าจัดส่ง และค่าภาษีเท่านั้น การรับประกันอะไหล่ เช่น ซิลิโคนแป้นจมูก ยางรองขา บุชบริเวณบานพับ ลินด์เบิร์กจะสำรองอะไหล่ให้กับร้านที่เป็น Authorized dealer อยู่แล้วแล้ว ดังนั้น ผู้ที่ใช้ลินด์เบิร์กสามารถไปเปลี่ยนอะไหล่กับร้านที่เป็นตัวแทนได้ทุกที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดอายุการใช้งาน ประกัน 3 +2ปี อะไร แม้ว่า ลินด์เบิร์กจะรับประกัน 3 ปีจากวันที่ผลิต แต่บางครั้ง สำหรับร้านที่เป็นร้านตัวแทนบางสาขา ที่ขายตัวที่โชว์อยู่ในร้าน (ไม่ได้สั่งสั่งทำเฉพาะคนนั้น ) การที่แว่นอยู่เฉยๆบน shelf นั้น ประกันก็ยังเดินทุกวัน บางทีอาจจะ 1-2 ปี ก็ยังไม่ได้ขาย ดังนั้น ลินด์เบิร์กจึงมี Buffer สำหรับกรณีนี้คือ บวกให้อีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี ดังนั้นลูกค้าที่ใช้กรอบที่สั่งทำจะได้ประกัน 5 ปี โดยอัตโนมัติ เงื่อนไขในการรับประกัน -ไม่มีเงื่อนไข สามารถเคลมได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะพังด้วยตัวมันเอง หรืออุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน ก็อยู่ในเงื่อนไขการประกันทั้งสิ้น ยกเว้นแว่นหายสาบสูญ​ จะไม่สามารถเคลมใหม่ได้

Q : ราคา LINDBERG CUSTOM

A : ราคา LINDBERG นั้นอยู่ในช่วง 19,000-25,000 บาท ขึ้นอยู่กับสีและรายละเอียดการสั่งทำเป็นหลัก ส่วนใหญ่ราคาจะไม่ขึ้นกับรุ่น หมายความว่า ทุกรุ่น ถ้าสีเดียวกัน ราคาจะเท่ากัน หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกัน และถ้าสั่ง option ทำเป็นลายเสี้ยนไม้ ราคาก็จะสูงกว่าแบบเรียบเป็นต้น และเนื่องจากลินด์เบิร์กนั้นทำแว่นเป็นตัวๆ ไม่ได้ทำเป็น mass product ดังนั้นราคาไม่ว่าจะเลือกในร้านหรือสั่งทำใหม่ ก็ราคาเดียวกัน ดังนั้นแนะนำว่าให้ custom แม้ว่าแว่นในร้านจะใส่พอดี เนื่องจากมีผลเกี่ยวกับระยะเวลาการรับประกัน ซึ่งใช้เวลาในการสั่งทำ 7-10 วันโดยประมาณ

Q : ถ้าเลยประกันแล้วแว่นพัง จะซ่อมได้หรือไม่

A : ถ้ากรณีแว่นมีอายุมากกว่า 5 ปี แล้วเกิดพังขึ้นมา เราสามารถสั่งเฉพาะส่วนที่เสียหายมาเปลี่ยนได้ โดยไม่ต้องซื้อแว่นใหม่ แต่ถ้าเกิดว่าส่วนที่เสียหายคืออะไหล่แป้นจมูกหรือยางรองขา ก็สามารถนำไปเปลี่ยนได้กับร้านที่เป็น Authorized Dealer ได้ทุกที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Q : LINDBERG เป็นกรอบแว่นตาของประเทศอะไร

A : LINDBERG เป็นกรอบแว่นตาที่ทำในประเทศเดนมาร์ก ผู้ที่เป็นเจ้าของแบรนด์คือ Henrik Lindberg ผู้เป็นลูกของ Paul John Lindberg ลักษณะของกรอบแว่นนั้นเป็นสไตล์ "เรียบหรู" หรือ "เรียบง่ายแต่หรูหรา" ตามสไตล์ minimalisist ซึ่งตัวที่เริ่มสร้างชื่อให้กับลินด์เบิร์กคือ Air Classic ซึ่ง Paul John Lindberg ออกแบบไว้เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน ปัจจุบันมีหลาย series ให้เลือกหลากหลายมกาขึ้น แต่ก็ยังคงคอนเซปต์คือ minimalist style

Q : กรอบแว่นตา Lindberg  ทำมาจากอะไร

A : ไทเทเนียม เกรดพรีเมี่ยม เป็นวัสดุหลักที่ใช้กับกรอบแว่นตาทุกรุ่นของลินด์เบิร์ก ไม่ว่าจะเป็น Air Classic ,Titanium Air Rim , Titanium Spirit 2000 , Strip Titanium 95xx,75xx , Acetanium 1000,N.O.W.6500 ล้วนแต่ใช้ไทเทเนียมเป็นองประกอบหลักในการประกอบแว่นตา ซึ่งไทเทเนียมที่ลินด์เบิร์กใช้นั้น เป็นเกรดพรีเมี่ยม มีความทนทานสูงมาก แต่ก็ยืดหยุ่นในตัวเอง สามารถทนทานต่อแรงที่มากระทำได้สูงมากโดยไม่เสียรูปทรง และมี memory flex คือจำรูปตัวเองได้ ไม่เสียรูปง่าย

Q : สีของ Lindberg ลอกหรือไม่

A : ลินด์เบิร์ก ไม่พบปัญหาเรื่องสีลอก เพราะการทำสีของลินด์เบิร์กนั้น ไม่ได้ใช้การเคลือบสีลงบนผิวไทเทเนียมเหมือนแบรนด์ทั่วไป แต่ใช้การ อะโนไดซ์ ไทเทเนียม ด้วยไฟฟ้า แล้วบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นผิวของไทเทเนียม ให้เกิดการสร้างสนิมสีไทเทเนียมขึ้นมาตาม โวลท์ไฟฟ้าที่ปล่อยเข้าไป แล้วปล่อยให้ไทเทเนียมนั้น สร้างผิวสนิมเป็น layer บางๆ หลายๆชั้น เป็นสีสันที่สวยงาม

Q : กรอบแว่นลินด์เบิร์ก ผุกร่อนได้หรือไม่

A : วัสดุไทเทเนียม นั้นมีความทนทานต่อการกัดกร่อนมากกว่าวัสดุชนิดอื่นมาก เนื่องจากว่า สนิมไทเทเนียมของลินด์เบิร์กนั้นต่างจากสนิมเหล็ก คือ ความละเอียดของโมเลกุลสนิม ที่เกิดจาก oxygen ทำปฏิกิริยากับไทเทเนียมนั้น มีขนาดเล็กระดับ นาโนเมตร ซึ่งโมเลกุลที่ละเอียดขนาดนี้ สามารถป้องกันชั้นในของไทเนียม ไม่ให้ออกซิเจนนั้นสามารถซึมเข้าไปได้ ดังนั้น สนิมไทเทเนียมเองที่เป็นตัวป้องกันเนื้อไทเทเนียมไม่ให้ผุกร่อน และสีต่างๆของกรอบลินด์เบิร์กนั้น เป็นสีที่เกิดจากการเรียงตัวของชั้นสนิมบางๆ ดังนั้นสีที่เห็นคือสีของไทเทเนียม จึงสามารถป้องกันการผุกร่อน และสีไม่ลอก

Q : LINDBERG มีสินค้าลอกเลียนแบบหรือไม่

A : LINDBERG ไม่แบรนด์ที่เป็นเป้าหมายของการลอกเลียนแบบสักเท่าไหร่ เพราะระดับผู้ที่คิดจะใช้กรอบแว่นลินด์เบิร์กนั้น จะเป็นคนที่มีการศึกษาและเป็นคนที่มีความคิด มีฐานะทางสังคมหรือประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นเป็นเรื่องยากที่จะขายสินค้าลอกเลียนแบบให้ลูกค้ากลุ่มนี้ และเนื่องจาก ต้นทุนสินค้าลินด์เบิร์กนั้นสูงมาก ดังนั้น คิดพื้นฐานเลยก็คือว่า ถ้าหากเจอลินด์เบิร์กราคาถูกมีแนวโน้มที่จะปลอมสูงมาก เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะขายสินค้าในราคาขาดทุน และร้านที่เป็น Dealer นั้นมีไม่ถึง 50 ร้านค้าทั่วประเทศ ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะมีสินค้าลอกเลียนแบบนั้นยาก เพราะไม่มีกลุ่มเป้าหมาย

Q : ซื้อ LINDBEG จากร้านที่ไม่ใช่ Authorized Dealer ได้หรือไม่

A : ซื้อได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องห่วงเรื่องการบริการหลังการขาย เนื่องจากว่าในการทำเคลมสินค้านั้น ร้านค้าที่จะทำได้นั้นต้องเป็น Authorized Dealer เท่านั้น อีกเรื่องที่ต้องห่วงคือ สินค้าที่ขายนั้นรับมาจากไหน เนื่องจากมี LINDBEG ที่เหลือค้างสต๊อกจาก Distributor เก่าหลายพันตัว ยังค้างอยู่ในระบบ ซึ่งอายุแว่นถึงปัจจุบัน เกิน 5 ปี แน่นอน ดังนั้น แว่นทุกตัวมั่นใจได้เลยว่า "ไม่มีประกัน" แต่ถ้าพอใจที่จะซื้อสินค้าไม่มีประกันก็สามารถซื้อได้

Q : แค่เส้นลวดๆ ทำไมราคาแพงจัง

A : อย่างแรกต้องเข้าใจคำว่า " Brand Value" หรือ "คุณค่าของแบนรด์ก่อน" เช่นเดียวกันกับ ทำไมราคากาแฟ STARBUCK ถึงแฟงกว่ากาแฟ "ชาพะยอม" ถึง 10 เท่า , ทำไม Mercedes Benz ถึงแพงกว่า TOYOTA ทั้งที่ก็ใช้เหล็กน้ำหนักพอๆกัน ขับเร็วได้เหมือนกัน แต่สมรรถนะไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจะไปมองว่าต้นทุนเหล็กอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องคิดถึง ต้นทุนกว่าจะได้มาซึ่ง innovation จากนั้นก็นำ innovation ไปทำ branding ซึ่งต้องใช้ทุนมหาศาล เพื่อให้แว่นตาลินด์เบิร์กเป็นแบรนด์บน หรือ hi-end brand เป็นแว่นที่กษัตริย์และผู้บริหารระดับสูงนิยมใช้ และต้องสร้างระบบขึ้นมาในการบิรหารจัดการ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนทั้งสิ้น เราจะมามองเพียงแค่เส้นลวดไทเทเนียมไม่ได้