The short cut story ,Part2

topic : “ทัศนมาตร” จะ “นัก” หรือ“ไม่นัก” อย่างไหน เหมาะกว่ากัน ?

Discuss by : Dr.Chatchawee (Dr.Dear)

Source : Loft Optician Podcast

 

เป็นอีกหนึ่งตอนที่ผมดึงมาจาก podcast ที่ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ #ล่อฟ้า พอประมาณ ไม่มาก ไม่น้อยพอกระสัย แต่ก็เชื่อว่า น่าจะมี impact พอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น(ไม่มากก็น้อย) ซึ่ง session นี้กำลังพูดถึง #ทัศนมาตรคืออะไร #เป็นใคร #มีหน้าที่อะไร และ #ขอบเขตการทำงานไปถึงตรงไหน โดยมีน้องต้ำเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

พิธีกร :

“เราต้องเรียก #optometrist ว่า “#ทัศนมาตร” หรือว่า “#นักทัศนมาตร” ?

 

Dr.Dear : ได้ให้ทัศนคติส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

การที่จะเป็น “นัก” “ไม่นัก” ในทางการแพทย์ ก็มีทั้งใ่นส่วนที่เป็นแพทย์กับวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งก็มีรูปแบบหลักสูตรการเรียนการสอนมากันคนละอย่าง ตัวอย่างเช่น หลักสูตร 4 ปี ที่เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์(สหเวช) ตัวอย่างเช่น เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด เมื่อจบการศึกษาออกมาแล้วเขาก็จะเรียกว่า นักเทคนิกการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด นักรังสีเทคนิค(ดร.เดียร์จบสาขานี้มาก่อนที่จะมาเป็นทัศนมาตร) ต่างๆเหล่านี้ก็จะเป็นคำที่ใช้เรียกวิชาชีพปริญญา 4 ปี

 

แต่ #ทัศนมาตรศาสตร์บัณฑิต นั้นเรียน 6 ปี (238 หน่วยกิต https://www.loftoptometry.com/optometry) และ รูปแบบการทำงานนั้น ไม่ใช่ลักษณะแบบเก็บข้อมูลตาม pattern หรือ platform ที่ต้องทำตามหลักเกณฑ์ เพื่อเก็บข้อมูลส่งต่อให้ #clincian เอาข้อมูลที่เก็บได้ไปประมวณผล วิเคราะห์ วินิจฉัย และ รักษา แต่ทัศนมาตรนั้น สามารถตรวจ วิเคราะห์ วินิจฉัย และ รักษาตามแนวทางของทัศนมาตรคลินิกได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว เราจึงไม่ควรนิยาม #optometrist ที่มี prefix-“นัก” นำหน้าทัศนมาตร แต่ควรเป็น “ทัศนมาตร” (เฉยๆ) มากกว่า

 

#ในทัศนะส่วนตัว

ในทัศนคติส่วนตัวผมสำหรับเรื่องนี้ ถ้าหากแฟนเพจอยู่กันมานาน ก็จะรู้ว่า ผมใช้ทัศนมาตรตั้งแต่ต้นมาโดยตลอด เพราะผมก็รู้สึกตลอดว่างาน optometrist ไม่ใช่ #technician แต่เป็น #clinician ซึ่งทั้ง 2 -cian นี้มีสิ่งที่ต่างกันชัดเจนก็คือ technician เป็นนักเทคนิคในความเชี่ยวชาญนั้นๆในวิชาชีพของตน ในการเก็บข้อมูลทางเทคนิคต่างๆในสิ่งที่เกี่ยวข้อง ด้วยวิธี อุปกรณ์ หรือ กระบวนการ ให้ครบ ถูกต้องและเพียงพอ เพื่อส่งต่อให้ clinician ทำการวิเคราะห์ วินิจฉัย และ วางแผนรักษาแก้ไข ตลอดจนติดตามผลการรักษา

 

แต่ #optometrist เป็นงานในลักษณะ clinician ที่ทำงานตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูล ทั้งด้วยเครื่องมือ วิธีการ กระบวนการ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล แล้วนำข้อมูลมา วิเคราะห์​ วินิจฉัย รักษาแก้ไข และตามผลการรักษา จบทั้งหมดด้วยตัวเอง ดังนั้นรูปแบบ optometrist จึงเป็น clinician จึงไม่ใช่ “นัก”

 

“นัก” “ไม่นัก” มันมีนัยยะอะไร

สำหรับบางคน นัก หรือ ไม่นัก ก็คงไม่น่าจะใช่สาระอะไร ก็น่าจะแค่คำๆหนึ่ง แต่จริงๆ มันมีนัยยะแฝงเชิงความรู้สึก ว่า #ศักดิ์ศรีวิชาชีพนั้นไปได้แค่ไหน จะเป็นเพียงนักเก็บข้อมูลเพื่อส่งต่อ ที่ไม่กล้าวินิจฉัย ไม่กล้ารักษา แล้วทำตัวเจี่ยมเจี้ยมหมอบคลานต่อวิชาชีพชาชีพอื่นที่ตัวเองรู้สึก(ไปเอง)ว่าเขาเหนือกว่า หรือเลือกที่จะเฉิดฉายในวิชาชีพอย่างภาคภูมิในการ #กล้าคิด #กล้าวิเคราะห์ #กล้าวินิจฉัย #กล้ารักษา #กล้าแก้ไข และตามผลการรักษา ตามหลักการทางของวิชาชีพตัวเอง และ #กล้าที่จะยื่นอกรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเองทุกอย่าง ซึ่ง #เป็นวิถีของผู้ที่อยู่บนวิชาชีพสูงสุดของตน โดยไม่ต้องunderวิชาชีพอื่น

 

และ อีกคำที่ผมไม่เคยใช้เรียก optometrist เลยก็คือ “หมอสายตา” เพราะ optometrist ไม่ได้มีแค่เรื่อง refraction ที่จะเป็นได้แค่ refraction doctor (หมอสายตา) แต่ทัศนมาตรจริงๆจะต้องดูทั้งระบบ refraction (ระบบหักเหแสง), sensory (ระบบรับรู้การมองเห็น) ,motor (ระบบกล้ามเนื้อตาและการทำงานร่วมกันของสองตา) รวมไปถึงระบบการเพ่งของเลนส์แก้วตาที่ทำงานสัมพันธ์กันกับการทำงานร่วมกันของสองตา เพื่อจะ #Enchanceระบบการมองเห็นให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่ไป compromise และไม่ใช่ จัดสายตา และ ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากจะเรียกตัวเองว่าหมอ ก็ควรจะเรียกว่า “หมอทัศนมาตร” ไม่ใช่ “หมอสายตา”

 

และถ้าวันหนึ่ง มันจะต้องมีชื่อย่อวิชาชีพ นำหน้าชื่อ ในทัศนมาตรของพวกผม มันควรจะเป็น ทม. เช่น ทม. สำหรับทัศนมาตรผู้ชาย และ ทมญ. สำหรับทัศนมาตรผู้หญิง แต่อันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัว แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ผู้มีอำนาจทางกฎหมายจะเป็นคนดำเนินการในส่วนนี้ เราตัวเล็กๆก็ได้แต่แสดงความคิดเห็นออกมาในมุมๆหนึ่งเท่านั้น

 

ส่วนผมก็แล้วแต่จะเรียก (ถ้าสนิทกันมากๆบางทีก็เรียกไอ้ก็มี) เพราะผมไม่ได้สนใจในหัวโขนอะไร คนไข้ที่มาที่ลอฟท์จะเห็นผมใส่ชุดลำลองมอฮ่อมสบายๆมากกว่าที่จะเห็นเสื้อกาวน์ เพราะผมสนใจแค่ว่า ผมจะมีความรู้ให้มากที่สุดเพื่อเอาไปดูแลคนไข้ที่เห็นคุณค่าในงานที่ผมทำให้ดีที่สุดได้อย่างไร ใครไม่เห็นค่าผมก็แค่ปล่อยผ่าน ก็เท่านั้นเอง

 

#ทิ้งท้าย

#ความเป็นทัศนมาตรไม่ใช่แค่ใบปริญญาแปะข้างฝา #แต่คือการปฎิบัติหน้าที่ตามหลักทัศนมาตรคลินิก เช่นเดียวกับความเป็นพระนั้นอยู่ที่ศีลที่ยึดปฎิบัติไม่ใช่แค่หนังสือสุทธิ ฉันไดก็ฉันนั้น

 

ก็ตัดบทสนทนามาให้แฟนเพจได้อ่านเล่นๆกัน ท่านที่สนใจจะฟังในส่วนของเสียง ก็เข้าไปรับฟังกันได้ที่ podcast loft optician : https://open.spotify.com/episode/1gEe5qOO0DFzHPrfU9rG50d มีอยู่ 4 part และ เดี๋ยวผมคงจะมีโอกาสได้ cut ตอนที่น่าสนใจมากให้ท่านๆ ได้อ่านกัน (เอาจริงๆ ผมน่าจะถนัดเขียนมากกว่าถนัดพูด เหมือนจะมีเวลาให้กรอง ให้แก้ไข พอพูดไลฟ์สด เหมือนดูตื่นๆ ยังไงชอบกล ^^)

วันนี้ เขียนเบาๆไว้เท่านี้ ตัดเลี่ยนแว่นไปก่อน เพราะเอาจริงๆ โพสต์รูปแว่นบ่อยๆ ผมก็เบื่อเหมือนกัน เอาไว้หายเลี่ยนแล้วค่อยว่ากัน

 

สวัสดีครับ

ดร.ลอฟท์

 

นัดหมายเพื่อทำนัด


loft optometry ,

578 Wacharapol rd, Tharang , Bangkhen ,Bkk ,10220

Mobile : 090-553-6554

Line : loftoptometry (no @)

 

สุธนการแว่น 

9/38-39 ถ.ศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร 66000

โทร 056611435

maps : https://g.page/SuthonOptic?share

(no social contact)

Khunyai Optometry 

345/51 หมู่บ้านไวซ์ซิกเนเจอร์ ถ. รอบเมืองเชียงใหม่ ตำบล สันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่ 50220

https://www.facebook.com/KhunyaiOptometry

maps: https://goo.gl/maps/75YT32mb3ZR5KVFr7



toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto