case study 3 : high compound myopic astigmatism


 

Case study 3 : (High) compound myopic astigmatism 

เรื่องโดย ดร.ลอฟท์


บทนำ

เรื่องราวของเคสนี้นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เพียงแต่วัดสายตาออกมาให้ถูกต้อง เหตุของเรื่องนี้คือแว่นเดิมที่่คนไข้พึ่งทำได้ไม่นาน และใช้อยู่นั้นมีปัญหาคือมองไกลไม่ชัด เห็นแสงฟุ้งในเวลากลางคืน และเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่รับแว่น เข้าไปแก้ไขวัดสายตาซ้ำหลายครั้ง แก้แล้วก็ยังคงมีอาการอยู่ จึงเข้ามาที่คลินิกเพื่อปรึกษาปัญหาที่เป็นอยู่  สรุปผลการตรวจ พบว่าแว่นเดิมที่ทำมาและผ่านการแก้ไขค่าสายตาหลายรอบนั้น ค่าสายตาที่วัดได้จากเลนส์เป็นสายตาสั้นที่มากเกิินจริง -1.50DS มีสายตาเอียงที่ under corrected อีก -1.00 DC  การแก้ไขก็ไม่ได้ยากอะไร แก้สายตาให้มันถูก เลือกเลนส์ให้มันเหมาะสม ปัญหาทุกอย่างก็จบหมด  มาเริ่มเรื่องกันเลยก็แล้วกัน

คนไข้หญิง อายุ 36 ปี มาด้วยอาการ...

Chief complain : แว่นเดิมที่ใช้นั้น มองไกลไม่ชัด มีแสงฟุ้งในเวลากลางคืน 

POHx 

Glasses : เริ่มใช้แว่นครั้งแรกตั้งแต่ ม. 3 แว่นปัจจุบันที่ใส่อยู่ ใส่มา 5 เดือน มองไกลไม่ชัด มีเงาซ้อน แสงฟุ้งในเวลากลางคืน 

- ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ 

- ไม่มีประวัติอุบัติเหตุทางศีรษะหรือดวงตา

- ไม่มีประวัติผ่าตัดเกี่ยวกับดวงตา

ไม่มีประวัติตาติดเชื้อ  ฟ้าแล๊บ หยักไย่ หรือเห็นรุ้งรอบดวงไฟ

HA : คนไข้มีปัญหาไมเกรนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับแว่นที่ใส่อยู่หรือเปล่า 

Diplopia : เห็นภาพมีเงาซ้อน  เป็นทั้งตาซ้าย ตาขวา หรือมองพร้อมกันทั้งสองตาก็เป็นอยู่ 

PMHx 

คนไข้สุขภาพแข็งแรง ตรวจสุขภาพเป็นประจำ  ไม่มีประวัติแพ้ยา หรือภูมิแพ้ 

SHx

ใช้งานหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชม.​

ข้อมูลแว่นเดิม 

OD  -5.50-1.00 x110  VA 20/25 

OS  -5.50-1.00 x60    VA 20/30 

Doc opinion

ผมพยายามวิเคราะห์หลายต่อหลายครั้งว่า เวลาเจอสายตาที่จ่ายมาประเภทว่า ขวา/ซ้ายเท่ากันเปะๆ หรือ มีสั้น/ยาว อย่างเดียวโดยไม่มีสายตาเอียงปนเลย หรือถ้ามีเอียงก็เอียงเท่ากัน หรือ พยายามตบแกนองศาเอียงเข้าแกน 90 หรือ 180 เท่าๆกันทั้งสองข้าง หรือประเภท สายตาประเภท 0.00 + addition อะไรทำนองนั้น  ผมมักจะคาดการก่อนเป็นสายตาที่มาจากการตรวจวินิจฉัยที่ผิดพลาด  เพราะมนุษย์ไม่ได้สมมาตรแบบ perfect ขนาดนั้น ที่จะเท่ากันเปะขนาดนั้น  มีงานวิจัยออกมามากมายว่า คนส่วนใหญ่มากว่า 50% มีสายตาเอียงอย่างน้อย 0.50DC ขึ้นไป  

และก็สังเกตอีกอย่างหนึ่งว่า คนที่ตรวจตาส่วนใหญ่กลัวที่จะจ่ายสายตาเอียง และมองมันเหมือนสัตว์ประหลาดและไม่อยากเข้าไปแตะ  ขนาดถึงกับบางคนบอกว่า "cylinder is in the car, not in the spectacle"  แสดงว่าเขากลัวกันจริงๆ  ซึ่งเข้าใจได้ เพราะเป็นสายตาที่ตรวจแล้วผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงคิดว่า "ไม่แก้ดีกว่าแก้ผิด" และพอไม่แก้ภาพก็ไม่ชัด  พอไม่ชัดก็มักจะดันสายตาสั้นให้สูงขึ้นไปเพื่อหวังความคมชัดจาก circle of least confusion ซึ่งเป็นรูปแบบการแก้ปัญหาที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง จะกังวลว่าถ้าค่าสายตาของอีกข้างไม่เท่ากับอีกข้างแล้วจะทำให้คนไข้ใส่ไม่ได้ แต่ดวงตาไม่ใช่ขนาดของเท้า ที่ต้องใส่รองเท้าข้างขวาให้เท่ากับข้างซ้าย แต่ถ้าเรารู้วิธีที่จะเค้นมันออกมา แล้วแก้ให้ corrected จริงๆ จะสามารถช่วยคนไข้ให้เห็นโลกได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก และเทคโนโลยีเลนส์ปัจจุบันนี้ ก้าวหน้าไปไกลกว่าที่จะกลัวโครงสร้างเลนส์พังจากสายตาเอียงแล้ว  

เช่นสายตาเดิม มีสายตาเอียงองศาในแนว oblique ก็ดูเข้าทางอยู่ แต่เหมือนพยายามจะทำให้สายตามองไกลตาขวากับตาซ้ายเท่ากันทั้ง sphere และ cylinder แต่ พอไปทำให้ cylinder ไม่เท่ากัน เลยต้องดัน sphere ตาซ้ายขึ้นมา กลายเป็น over minus  สร้างปัญหาตามมา 

Preliminary eye exam 

Version : SAFE ,no pain ,no diplopia  

Covert test ; Ortho ,EP’

Refraction 

Retinoscope (on phoropter)

OD -5.50 -1.50 x 75   VA 20/25

OS -4.00 -2.00 x 120  VA 20/25

Monocular Subjective (on phoropter)

OD -5.25 -1.75 x 80  VA 20/20

OS -4.50 -1.75 x 115 VA 20/20

BVA (on phoropter)

OD -5.00 -1.75 x 80  VA 20/20

OS -4.50 -1.75 x 115 VA 20/20

Final Rx (trial on trial frame )

OD -5.00 -1.50 x 75 VA 20/15+2

OS -4.50 -1.75 x 105 VA 20/15+2

Functional : vergence and accommodation 

Distant 6 m.

horz.phoria : 1 BI exophoria 

        Vergence 

BI-vergence : x/12/6

BO-vergence : 12/24/10

        Vertical phoria : 1 BUOS (right hyperphoria w/ VonGrafe’s Technique)

BD-reserve (Supra vergence) : 3/1 (test on OS)

BU-reserve ( infra vergence) : 6/2  (test on OS)

       Maddox Rod : 

1 BUOS on phoropter

0.25 BUOS on trial frame 

Near 40 cm 

Horz.phoria : 6 BI ,exohporia 

BI/BO reserve  : Excellent 

AC/A ratio : 2:1

Functional : vergence and accommodation 

BCC +0.25 

NRA/PRA : -2.00/-2.00 

Assessment 

1.High compound myopic astigmatism 

2.mild exophoria w/ low AC/A ratio  

Plan 

1.full correction w/ single vision lens 

OD -5.00 -1.50 x 75 

OS -4.50 -1.75 x 105 

Rx : lens : Rodenstock Perfalit Mono Plus 2 0.5  ,คนไข้ low AC/A ไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่าย low plus เพื่อช่วยลดการเพ่งขณะดูใกล้ 

Frame : LINDBERG rim titanium Harley (custom spec)

ทิ้งท้าย 

เคสนี้ จะว่าไปแล้ว ไม่ได้มีอะไรยากหรือซับซ้อน เพียงแค่วัดสายตาให้ถูกต้อง  แต่วัดสายตาให้ถูกนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่นายกแว่นตาหรือผู้ใหญ่ที่ร่างกฎกระทรวงพยายามจะอ้างถึง กรรมก็เลยจะตกอยู่ที่ประชาชนที่ไม่มีทางเลือก ก็ต้องยอมรับปัญหานี้ไป 

แต่คำถามที่อยากจะฝากคือคือ...เวลาเราตั้งใจจะทำเลนส์ดีๆสักคู่หนึ่ง ตัวอย่างเช่น คนขายเลนส์ว่า Rodenstock  Impression FreeSign 3 ดีที่สุดในโลก  แล้วถ้าเกิดว่าสายตาที่วัดได้เพื่อสั่งเลนส์เป็นค่าสายตาที่ไม่ถูกต้องอย่างเคสนี้นั้น  Impression FreeSign 3 ยังจะดีได้อยู่ไหม  ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายให้กับเลนส์ที่เขาว่าดีๆในปัจจุบัน เคยคิดไหมว่า จ่ายไป 100 ได้มาเท่าไหร่ แล้วใครกันจะเป็นคนยืนยันได้ว่าเราได้มาเท่าไหร่  เพราะเลนส์สายตาไม่เหมือนเลนส์กล้องถ่ายรูป ที่จ่ายแสนแล้วได้แสน เพราะเลนส์กล้องถ่ายรูปมันเป็น optic ที่ออกแบบมาให้ fit กับ optical system ที่อยู่ภายในกล้องถ่ายรูป ที่ระยะทุกอย่างถูกควบคุมตัวแปรไว้ทั้งหมด และออกแบบเลนส์มาให้โฟกัสที่ระยะใดระยะหนึ่ง  ในขณะที่เลนส์สายตานั้น แพงกว่าเลนส์กล้องถ่ายรูป เนื่องจากออกแบบมาให้เหมาะสมกับความผิดปกติของการมองเห็นที่เป็นอยู่ และดวงตามีมนุษย์ก็มีระบบที่มีการเคล่ื่อนไหวตลอดเวลา แล้วถ้าหากความผิดปกติของสายตาที่วัดได้นั้นเกิดจากการตรวจวินิจฉัยที่ผิดพลาด แล้วลำพังการใช้เลนส์ดีๆ เพื่อช่วยหักลบกลบหนี้กับค่าสายตาที่ผิด จะช่วยได้สักเท่าไหร่  และที่ต้องคิดกันให้ลึกต่อไปอีกคือ การปรับตาเข้าหาสิ่งที่ผิดนั้น จะสร้างอันตรายตามมาบ้าง จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถึงผลร้ายที่จะตามมา 

เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจคือ คนพากันเชื่อเรื่องแสงสีน้ำเงินว่ามันเป็นอันตาย และพยายามเชียร์ขายผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพื่อป้องกันอันตรายที่วิทยาการปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันอันตรายจากแสงสีน้ำเงินเลย ในขณะที่อันตรายจากการ correction ที่ผิด นั้นเกิดผลกระทบตามมาอย่างชัดเจน แต่เรากลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับกันได้ ตัดแว่นมึนใส่ไม่ได้ก็ shopping around ไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ  ถ้าเรื่อยๆแล้วเจอ..ก็ได้หยุด  ถ้ายังไม่เจอก็คงต้องเรื่อยๆต่อไป  บางคนเสียชีวิตก่อนจะเจอโลกทีสวยงามอย่างที่กวีเขาเล่าให้ฟังก็มี 

ผมไปเห็นแล้วเกิดความคิดว่า เรากลัวแสงสีน้ำเงินกัน แต่เรากลับไม่กลัวเรื่องสายตาที่มันไม่เหมาะกับตาเราจะสร้างปัญหาอะไรได้บ้างหรือแม้แต่เรื่องเซนเตอร์เลนส์ที่ประกอบสำเร็จที่ไม่ตรงกับเซนเตอร์จริงของเรา จะก่อปัญหาอะไรตามมาบ้าง 

เลยเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า..

"ดวงตามันมีราคาถูกขนาดนั้นเลยหรือ"

 

สวัสดีครับ 

ดร.ลอฟท์


the product 

LINDBERG air titanium rim
     MODEL: HARLEY 43/24 135 mm temples
     COLOUR: Upper rim: U9 / Temple: U9 / Lower rim: U9 / Acetate inner rims:  K204
     CLIPON: colour: Grey 
Engraved Name: I_R A T C H A

lens : rodenstock perfalit mono plus 2

 

toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto