Case Report : ภาวะตาเหล่ซ่อนเร้น ที่เกิดจากการใช้ค่าสายตาที่ผิด


Case Report : "ตาเหล่ซ่อนเร้นจากการใช้เลนส์ที่เบอร์สายตาผิด" 

เรื่องโดย  สมยศ เพ็งทวี ,O.D.

เกริ่นนำ

เคสนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ  เป็นเคสที่ไม่ยากเกินไปนัก แต่มีอะไรให้ต้องระมัดระวังขณะทำการตรวจ และต้องระวังอย่างมากด้วย ถ้าไม่ระวังและเกิดการวัดสายตาผิด การแก้ปัญหาก็ผิด ก็จะเกิดปัญหาตามมามากมายอย่างในเคสที่จะยกตัวอย่างมานี้ 

ข้อมูลทั่วไป (General information)

คนไข้หญิง อายุ 41 ปี

มาด้วยอาการ

เมื่อยตา รู้สึกเหนื่อยง่าย ล้าตาง่าย และใส่แว่นก็เห็นภาพไม่ชัดทั้งไกล ใส่แว่นทำงานต่อเนื่องไม่ได้ ถอดแว่นออกระหว่างทำงานแล้วอาการดีขึ้น  มักปวดเวลาบ่ายๆ หรือเย็นๆ ก็จะเริ่มมีปวด

แว่นปัจจุบัน

แว่นที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้น เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ “มองไกลไม่ชัด ใกล้ก็ไม่ชัด”  

คนไข้ไปพบจักษุแพทย์หลายครั้ง (ครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว)  ก็ไม่พบความผิดปกติอะไร หมอบอกเพียงแต่ว่าตาแห้ง และได้นำตาเทียมกลับมา  และวัดสายตาทุกครั้งสายตาก็ไม่เปลี่ยน

ประวัติสุขภาพตา

ประวัติการใส่แว่น

 คนไข้เริ่มใช้แว่นตาครั้งแรกอายุ 10 ขวบ ,แว่นที่ใส่อยู่ปัจจุบัน ใช้มาประมาณ  6 เดือน  ใส่แล้วรู้สึกเมื่อยตา ล้าตา (แต่ก็ใช้เบอร์สายตานี้มานาน 5-7 ปี)

ประวัติการผ่าตัด

คนไข้เคยทำ LESIK มาเมื่อ 10 ปีก่อน (ตอนนั้นสายตาประมาณ -7.50)

ไม่มีประวัติตาติดเชื้อในช่วงเวลาปีหรือสองปีที่ผ่านมา สุขภาพตาโดยรวมดี

ประวัติปวดหัว 

ปวดเป็นประจำ ปวดแบบมึนๆ ตื้อๆ อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง /ปวดช่วงบ่ายๆเย็นๆ /ที่บริเวณรอบๆเบ้าตา  ปวดแต่ละครั้งกินเวลานาน / ถอดแว่นอาการดีขึ้นบ้างและบางครั้งต้องทานยาเพื่อระงับอาการ /คนไข้มักสังเกตว่าอาการจะเป็นหนักขึ้นเมื่อต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์  โดยให้ระดับคะแนนความปวดอยู่ที่ 8/10


Check Point 

เนื่องจากอาการปวดหัวนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นการซักประวัติเกี่ยวกับอาการปวดหัว ตามหลักทัศนมาตร์แล้วต้องใช้หลัก “FOLDARQ” เพื่อนำไปตั้งสมมุติฐานว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งประกอบไปด้วย  Frequency ,Onset ,Location, Duration ,Associate, relief, Quality

ในเคสนี้ วลีที่พึ่งสังเกตคือ

“ปวดช่วงบ่าย” แสดงว่าใช้สายตามามาครึ่งวันแล้ว จึงน่าจะมาจากสายตา

“ปวดเวลาดูใกล้ ใช้คอมพ์” ก็เพิ่มน้ำหนักว่าน่าจะมาจากปัญหาสายตา

“ปวด 8/10” ถือว่าปวดมากเกือบทนไม่ได้ และฟ้องด้วยการทานยา แสดงว่าเป็นหนัก  ดังนั้นต้องรีดหาว่าอะไรทำให้ปวดได้ขนาดนั้น


ประวัติทางสุขภาพ 

คนไข้ตรวจสุขภาพครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 เดือนก่อน  แข็งแรงดี

ประวัติภูมิแพ้ 

มีแพ้ฝุ่น ไอ จาม บางครั้งมีทานยา

ประวัติการใช้ยา 

# Methylphenidate รักษาอาการสมาธิสั้น ทานมา 12 ปีแล้ว

# Topiramate  ป้องกันอาการลมชัก ทานมา 2 ปีแล้ว

# sertraline รักษาอาการวิตกกังวล ทานมา 2ปี

 #clonazepam รักษาอาการมือสั่น (ทานมานานมาก)

Note : คนไข้ใช้ยาอยู่หลายชนิด ดังนั้นต้องระมัดระวังในตรวจว่า มียาชนิดใดบ้างไหม ที่ส่งผลข้างเคียงต่อสายตา เช่น Topiramate มีผลข้างเคียงทำให้สายตาเปลี่ยนได้  ดังนั้นต้องระมัดระวัง หรือนัดคนไข้ตรวจประจำปี

ประวัติเกี่ยวกับสังคมและการใช้ชีวิต 

#คนไข้ทำงานหน้า PC 4-5 ชม./วัน

#อ่านเอกสาร 3 ชั่วโมง/วัน

ผลการตรวจเบื้องต้น (Preliminary Eye Exam)

PD : 33/33

VA(ตาเปล่า) : OD 20/200 ,OS 20/200 ,

VA (แว่นเดิม) : OD 20/20 ,OS 20/20

 ** ถ้าดูความคมชัดจากแว่นเดิมที่ใส่อยู่ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรที่ผิดปกติ  ชัดปกติดี ,แต่ทำไมถึงปวดหัว

Version : Smooth ,Acuracy ,Full ,Extension w/ no pain ,no diplopia

Cover Test : ortho @ 6 m. , Esophoria @ 40 cm.

** เริ่มน่าสนใจ เพราะว่าขณะทำ cover test เพื่อหาเขซ่อนเร้นนั้น ปรากฏว่า มีเขเข้าซ่อนเร้น(Esophoria) ด้วย ซึ่งมักจะเกิดกับเลนส์สายตาที่เกินความต้องการ (over minus)  เดี๋ยวค่อยๆตามไปดีๆ

“ผมข้ามขั้นตอน : NPC,NPA ,Steropois,Color Vision ,Amsler ,Visual field เพราะผมมีสิ่งที่ผมสงสัยอยู่แล้ว”

สายตา (refraction)

#สายตาแว่นเดิม (progressive)

OD -1.50-1.00x180

OS -1.25-0.75x170

Add +1.25

# Retinoscope

OD -1.00 -1.00x170  VA 20/20++

OS  -0.50 -0.50x135  VA 20/20++

# BVA

OD -1.00 -1.00 x 177  VA 20/15

OS -0.50 -0.63 x 145  VA 20/15


Check Point:

สิ่งที่คิดไว้ เป็นไปตามที่คาด  คือเบอร์สายตาเก่าที่ใช้มาหลายปีและวัดกี่ทีกี่ทีก็ไม่เคยสายตาเปลี่ยน ที่แท้จริงแล้ว คนไข้ใส่ over minus มานานมาก  จนทำให้เกิด เขเข้าซ่อนเร้น (Esophoria) และเป็นที่มาของอาการเมื่อยตา ล้าตา ปวดเบ้าตาเวลาทำงานในระยะใกล้ดังกล่าว  

ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า progressive lens ที่คนไข้ใช้ ซึ่งใช้มานานกว่า 5 ปี เปลี่ยนเลนส์ก็บ่อยครั้งนั้น และทำไมเริ่มใช้ตั้งแต่อายุ 37 ปี  จริงๆแล้วคนไข้มีสายตายาวในผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใส่โปรเกรสซีฟจริงหรือไม่  หรือค่า addition ตั้ง +1.25D นั้นมาจากค่าสายตามองไกลที่จ่ายเกินไป  ซึ่งสิ่งที่จะบอกเราได้ก็คือการทำ binocular function


ตรวจการฟังก์ชั่นการทำงานของเลนส์ตาและกล้ามเนื้อตา

#ตรวจที่ระยะ  6 เมตร

-Esophoria 2 Base Out  (เขเข้าซ่อนเร้น)

-BI reserve : x/8/4

#ตรวจที่ระยะ 40 ซม.

-Esophoria 6 Base Out  (เขเข้าซ่อนเร้น)

-BI reserve : 16/24/12

# AC/A ratio : 4:1

# BCC: -0.25D


Check Point :  ดีเด็ดมันอยู่ตรงนี้แหล่ะ คือค่า Binocular Cross Cylinder (BCC) มีค่าเป็นลบ หรือที่เรียกภาวะ lead of accommodation  มักเกิดจาก Accommodation ที่ ทำงานมากเกินไป (Over Accommodation)

ซึ่งที่คนปกติมากกว่า 90% เขาเป็นกันก็คือ มี BCC เป็นบวก +0.25D ถึง +0.50D เพราะเลนส์ตาธรรมชาติมีความขี้เกียจหรือมีค่า lag of accommodation อยู่เล็กๆอยู่แล้ว  แต่ในเคสนี้ นอกจากไม่ต้องการได้เลนส์ addition มาช่วยแล้วยังต้องการเพ่ง (over respond) อีกด้วย  ซึ่งการจ่าย progressive add +1.25 นั่นมันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาในเคสนี้ เพราะเขาไม่อยากให้ช่วย  และที่เป็น lead ขนาดนี้ น่าจะมาจากการใส่เบอร์สายตาสั้นที่เกินติดต่อ ต่อเนื่องกันมายาวนานมากๆ เลยทำให้พบอาการผิดปกติดังกล่าว


 วิเคราะห์ความผิดปกติ (Analysis)

1) มองไกล :

คนไข้ใช้เลนส์สายตาสั้นที่ใช้มาหลายปีนั้นเกินกว่าความเป็นจริง (over minus) ซึ่งเบอร์สายตาที่เกินไปนั้น จะไปกระตุ้นระบบโฟกัสมากเกินไป (Over Stimulate) ทำให้เกิดภาวะ เขเข้าแบบซ่อนเร้น (Esophoria) (ทั้งไกลและใกล้)  

ดังนั้นเมื่อมีตาเหล่าเข้าซ่อนเร้น (Esophoria) อยู่  กล้ามเนื้อตาของของคนไข้ต้องออกแรงเพื่อ “ดึงลูกตาออก(Divergence)หรือที่เราเรียกว่า “Negative Fusional Vergence” เพื่อโฟกัสให้เกิดการรวมภาพให้ได้  ซึ่งเราสามารถตรวจสอบความสามารถของแรงดึงโดยดูที่ค่า Base In Reserve (x/8/4) : ภาพเธอเริ่มเห็นภาพแยกที่ 8 BI และกลับมารวมใหม่อีกครั้งที่ 4 BI

ดังนั้นแรงที่คนไข้สามารถทำได้คือ 8 ปริซึม(Supply)  แต่เธอมีเหล่ซ่อนเร้นอยู่ 2 prism (phoria=demand)  ดังนั้น reserve (supply) ของเธอมีมากกว่า 2 เท่าของ phoria (demand) ทำให้เธอไม่มีปัญหามากนักขณะดูไกล

2.ขณะดูใกล้ 

มีเหล่เข้าแบบซ่อนเร้น 6 BO ,Esophoria

ขณะหา phoria ดูใกล้นั้น พบว่ามี Esophoria @near อยู่ 6 prism base out และมี BI Reserve 16/24/12 

ทีนี้ค่อยๆคิดตามให้ดีนะ  คนไข้มี 6 Eso@near  และมี AC/A ratio 4:1  นั่นหมายความว่า “ทุกครั้งที่เลนส์แก้วตาคนไข้เพ่งไป +1.00D จะทำให้เกิดการ convergence 4 prism 

ดังนั้น สายตานี้เกินจริงมา -0.50 D  แสดงว่าไป induce ให้เกิดการ convergence  2 prism  ทำให้

# ขณะมองไกล คนไข้จะมี 4 BO (ของเดิม2BO) 

# ขณะดูใกล้ 8 BO (ของเดิม 6 BO)   ดังนั้นที่ใกล้ทำให้ยิ่งเกิด Esophoria มากขึ้นไปอีก  แล้วเลนส์ตาที่เพ่งต่อเนื่องมาหลายๆปี ไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพราคนไข้ใช้สายตานี้มาตลอด เลยทำให้เลนส์ตาเกิดภาวะ Accommodative excess (ทำมากเกินไป) จึงฟ้องมาด้วยค่า BCC ที่ติดลบ  คนปกติเวลาดูใกล้เขาอยากได้เลนส์บวกมาช่วย (อยากได้ add)  แต่คนไข้รายนี้ต้องการเลนส์สายตาลบมาช่วย  ซึ่งเราเรียกว่า lead of accommodation

Assessment

1.สายตาสั้น (Simple Myopia)

2.ตาเหล่เข้าแบบซ่อนเร้น (Esophoria)

3.กำลังเพ่งเกิน (Accommodative Excess)

การแก้ไข (Plan)

 1.Full Correct

OD -1.00 -1.00 x 177  VA 20/15

OS -0.50 -0.63 x 145  VA 20/15

2.prism correction

ผมจ่ายปริซึม 2 base out สำหรับการ correction ให้ระยะไกล  (ดังนั้นที่ใกล้ก็จะได้อานิสงค์ด้วยคือลดลงเหลือ 4 (จาก 6 )

3.ใช้ Plus technology ของ Rodenstock ซึ่งเป็น option ที่มีอยู่ในเลนส์ชั้นเดียว เข้าไปช่วย เพื่อลดกำลังเพ่งอีก 0.50D เพื่อให้ accommodation คายตัวได้อีก 2 

ดังนั้น ทำให้คนไข้เหลือเขเข้าซ่อนเร้นลดลงไปอีก 2 (เหลือค้างไว้ 2 BO)  ซึ่งกำลังชดเชยของคนไข้นั้น สูงถึง 24 BI (reserve) แค่นี้ถือว่าเกินพอ

Result

ผมติดตามผลมาพักใหญ่ และดีใช้ที่คนไข้ขึ้นมาดัดแว่น ทำให้ผมสามารถดัดปรับแต่งแว่นให้ได้ศูนย์ดีที่สุด (ตอนส่งมอบนั้นไปทางไปรษณีย์)  ผลลัพธ์ดีอย่างที่คิดไว้ คนไข้สามารถใส่แว่นได้ตั้งแต่เช้า ไปจนถึงเย็นโดยไม่มีอาการเมื่อยล้า เหมือนที่เคยเป็นมาหลายปี  แต่บางเช้าที่ใส่ตอนแรกๆ จะมองไกลไม่ชัดแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ชัดชัดแล้วก็สบาย เบาตา

เป็นเคสที่น่าสนใจครับ  และผมเชื่อว่ามีคนไข้จำนวนมากที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่หาคำตอบไม่ได้อย่างคนไข้ท่านนี้  และผมก็ดีใจที่ช่วยหาปัญหาเจอ และแก้โจทก์ที่คนไข้นำมาให้ได้  ซึ่งต้องขอขอบคุณคนไข้ด้วย ที่เป็นครูให้ผมในครั้งนี้   ซึ่งผมเคยเจอแต่ในตำรา

ดังนั้นฝากไปถึงคนไข้ทุกท่าน รวมไปถึงผู้ที่ให้บริการสายตา  ว่าการจ่ายค่าสายตาที่ผิดนั้น มันทำให้เกิดผลเสียตามมามากมายหลายอย่าง ซึ่งอย่างในเคสนี้ คนไข้ต้องใช้เลนส์โปรเกรสซีฟราคาแพงกว่า 5 คู่ในเวลา 5 ปี จากสายตาที่วัดเคลื่อน และยังไปทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้อตา เมื่อยตา ปวดตาตามมา  ซึ่งเคสนี้ผมแก้ปัญหาด้วยเลนส์ชั้นเดียว ปัญหาก็จบ   จึงอยากจะฝากไว้

แต่การวัดสายตาให้ผิดนั้นมันก็ง่ายมากที่จะผิด  เพราถ้าการวัดนั้น พึ่งพาคอมพิวเตอร์อย่างเดียว  หรือระยะตรวจที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็สามารถทำให้สายผิดนั้นเกิดได้ง่ายมาก  เราต้องลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ถูกต้อง  เริ่มจากห้องตรวจ  ระยะลึก ความคมชัดของแผ่นรับชาร์ตตัวหนังสือ  ขนาดของตัวหนังสือ  phoroter หรือเลนส์เซตที่ได้มาตรฐาน  แล้วถ้าเป็นไปได้ ฝึกใช้ retinoscope ให้ได้ เพราะเป็นวิธีเดียวที่คุณสามารถจะตรวจขณะที่เลนส์ตาของคนไข้นั้นคลายตัวมากที่สุด(เนื่องจากวัดขณะให้คนไข้มองไปไกลๆ) และเป็นวิธีที่สามารถหาค่าสายตาได้ถูกต้องแม่นยำ โดยที่คุณไม่ต้องถามคนไข้ว่า “ชัดไหม ๆ”

 เพราะวัดตาแบบ “ชัดไหมๆ นี่แหล่ะตัวสร้างปัญหา” เพราะ การทำ subjective นั้นบางทีคนไข้ก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เราถาม  คนไข้บางคนตอบไปอย่างนั้น และก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด  และถ้าเราเออออห่อหมก ก็เรียบร้อยโรงเรียนวัด พากันลงคลองวัดไผ่ 

 วัดตาให้ชัดนั้นไม่ยากเพราะแค่ใส่เบอร์สายตาให้มันเกินๆเข้าไว้ มันก็ชัดหมดแหล่ะ  แต่ไอ้ที่ชัดแบบพอดี ชัดแบบเลนส์ตาคลายตัวเต็มที่ ชัดแบบเห็นเฉยๆไม่ต้องเพ่ง ชัดแบบทำให้ระบบกล้ามเนื้อตากลับมาฟังก์ชั่นปกติ  อันนี้สิยาก

 ผมเรียนทัศนมาตร์หลักสูตร์ 6 ปี  และจบแล้วทำงานแล้วอีก 6 ปี  ป่านนี้ผมยังรู้สึกว่ายังเรียนไม่จบ และต้องอ่านหนังสือทุกวัน และดูท่าทางจะไม่มีวันจบในชาตินี้

 จึงอยากจะฝากไว้ ว่าเราต้องหมั่นฝึกการตรวจด้วยวิธี Objective มากขึ้น ลดการพึ่งพาคอมพิวเตอร์  ปัญหาการวัดสายตาก็จะลดลง  คนไข้ก็ได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น  และประหยัดเงินในกระเป๋าให้ลูกค้าท่านได้

ทิ้งท้าย

ขอบคุณ แฟนคอลัมน์ทุกท่าน ที่ติดตามอ่านกันอย่างต่อเนื่อง พิมพ์ตกหล่นไปบ้าง ต้องขออภัย หรือถ้าท่านสามารถแจ้งไดก็ขอบคุณมากครับ 

สวัสดีครับ

Dr.Loft


คลินิกทัศนมาตร ลอฟท์ ออพโตเมทรี 

578 ถ.วัชรพล บางเขน กทม. 10220

โทร 090-553-6554

id line : loftoptometry

 

toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto toto togel toto togel toto togel toto togel situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto situs toto